อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในไทยแต่เดิมมี สถิติที่สูงมากเมื่อเปรียบกับในหลายๆ ประเทศ โดยตามสถิติบ่งบอกว่าประเทศไทย คือประเทศในอันดับที่ 4 ของแถบเอเชียแปซิฟิก โดยเป็นรองแค่ เวียดนามที่ครองอันดับ 1 , จีน , อินโดนีเซีย , ปากีสถาน และไทยตามลำดับ ทั้งนี้แม้ประเทศไทยจะมีมาตรฐานในด้านการผลิตซอฟต์แวร์ที่ตรงตามมาตรฐาน แต่จิตสำนึกในความเป็นลิขสิทธิ์ยังน้อยมาก เพราะในหลายๆ บริษัทใหญ่ที่สามารถทำมูลค่ามหาศาลต่างมีโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ผิดลิขสิทธิ์ ให้เห็นเป็นจำนวนมาก

แน่นอนว่ามีต้องมีหลายคนทราบกันดีว่าซอฟต์แวร์ว่านั้น มิลิขสิทธิ์ในด้านของความเป็นทรัพย์สินทางปัญญาอยู่ แต่ก็มีหลายๆ ฝ่ายที่มองข้ามความสำคัญเหล่านี้ไป โดยในตลอดหลายปีที่ผ่านมาภายในประเทศไทยก็ได้การรณรงค์ให้ มองเห็นถึงคุณค่าในความหมายของคำว่าลิขสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง แต่ถึงอย่างนั้นเปอร์เซ็นต์อัตราของการละเมิดลิขสิทธิ์กลับลดลงไปเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง โดยในปัจจุบันประเทศไทยมีการละเมิดลิขสิทธิ์สูงถึง 75 เปอร์เซ็นต์ ในขณะเวียดนามที่ครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในด้านการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ แถบเอเชียแปซิฟิกมีเปอร์เซ็นต์ที่สูงถึง 92 เปอร์เซ็นต์ จึงนับว่าการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในประเทศไทยมีตัวเลขที่สูงมาก และนอกจากนี้ผลกระทบต่างๆ ที่เกิดจากการละเมิดลิขสิทธิ์สามารถตีเป็นตัวเลขความเสียหายได้ถึง 7 พันล้านกว่าบาทเลยทีเดียว นั้นจึงเป็นตัวบ่งชี้ว่าบรรดาบริษัทใหญ่ๆ นั้นพยายามกอบโกยรายได้ผ่านซอฟต์แวร์ที่ผิดลิขสิทธิ์เหล่านี้อยู่ไม่น้อยเลย ทีเดียว

ไม่เพียงแค่นั้นในจำนวนร้อยละ 75 นี้ยังรวมไปถึงเหล่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลไม่ใช่แต่คอมพิวเตอร์จากองค์กรเท่า นั้น แต่ก็นับว่าการละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศไทยทุกวันนี้ได้มีการลดลงในทุกๆ ปี เพราะในปัจจุบันนี้มีหลายๆ หน่วยงานเริ่มให้ความสำคัญ และกวาดล้างเหล่าซอฟต์แวร์เถื่อนอย่างต่อเนื่อง บวกกับซอฟต์แวร์ในปัจจุบันได้มีการปล่อยให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้ฟรีๆ หรือมีการปรับราคาให้ถูกลงตามค่าเงินบาทด้วยนั้นเอง